อัลลัน ซิโมนเซ่น ฟุตบอลและเวลา

สำหรับนักเตะบาเซโลน่าที่อยากย้ายทีมสักครหนึ่งนั้นแน่นอนว่าจะต้องมีเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายและเมื่อย้อนกลับไปก็ทำให้ต้องคิดถึงชีวิตของอดีตยักเตะคนหนึ่งและเป้นนักเตะที่น่าสนใจอย่างมาก ซึ่งเขานั้นเคยเป็นแข้งในระดับบังลงดอร์และได้ประสบความสำเร็จกับสโมสรบาเซโลน่าแต่สุดท้ายแล้วนั้นเขากลับเลือกและตัดสินใจในการบ้ายไปอยู่ในลีกการแข่งขันฟุตบอลในระดับรองของอังกฤษอย่างชาร์ลตันแอธเลติก

สำหรับนักเตะอย่างอัลลัน ซิโมนเซ่น นักเตะมากความสามารถจากบาเซโลน่าเขานั้นได้สร้างความช็อคโลกด้วยการย้ายไปอยู่กับทีมในลีกรองของอังกฤษชาร์ลตันแอธเลติก ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่สร้างความสนใจให้กับแฟนบอลอย่างมากว่าทำไมเขานั้นจึงเลือกที่จะย้ายไปสู่ทีมชาร์ลตันแอธเลติกซึ่งเป้นทีมฟุตบอลที่อยู่ในลีกรองของอังกฤษ ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้นั้นเมื่อย้อนกลับไปอัลลัน ซิโมนเซ่นเรียกว่าเป็นกองหน้าที่มีรูปร่างเล้กแต่ความสามารถของเขานั้นถูกเรียกว่าเล็กพริกขี้หนูเขามีความสูงเพียง 165 เซนติเมตรเท่านั้น

เป็นนักเตะสัญชาติเดนมาร์กที่เรียกได้ว่าเป็นดาวเด่นในยุคทศวรรษ 70 เขานั้นเติบโตมามากับทีมท้องถิ่นและได้ก้าวเข้าสู่วงการฟุตบอลอย่างเต็มตัวกับโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัคในปี1972 ในยุคนั้นการที่จะประสบความสำเร็จในอาชีพการเป็นนักฟุตบอลนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย

เพราะในช่วงวัยของเขาเพียงแค่ 18-19 ปีของเขานั้นเขาจึงต้องใช้เวลาในการปรับตัวกับวงการฟุตบอลอย่างมาก ถือว่าทุกอย่างนั้นใหม่หมดสำหรับเขา ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศ สภาพแวดล้อม สนาม เพื่อนรวมทีมเป็นต้น และนอกจากนั้นด้วยสภาพร่างกายของเขาที่ไม่ได้สูงมากทำให้เขานั้นดูกลายเป้นนักบอลที่ไม่ได้เจ๋งเท่าไหร่นัก

อัลลัน ซิโมนเซ่นใช้เวลาในการปรับตัวถึง2ปี เขานั้นถูกวิพากษ์วิจารย์อย่างหนัก ว่าการที่สโมสรนั้นลงทุนกับตัวเขาถือว่าเป้นการลงทุนที่เกิดความล้มเหลวอย่างมาก แต่คนที่ออกมายืนยันให้กับเขาว่าเขานั้นต้องการเวลาก็คือโค้ชในตอนนั้นนั่นเองเพราะเขานั้นเชื่ออย่างยิ่งว่าอัลลัน ซิโมนเซ่นนั้นมีของตัวอย่างแน่นอน

จนกระทั่งเมื่ออัลลัน ซิโมนเซ่นเริ่มที่จะปรับตัวได้ ทุกอย่างเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นเรื่องของเวลาจริงๆเขาต้องการเพียงเวลาที่เหมาะสมเพียงเท่านั้นเขาก็จะสามารถก้าวขึ้นมาในการเป็นตัวหลักให้กับทีมฟุตบอลของเขาได้นั่นเอง สุดท้ายแล้วเขาก็สามารถที่จะโชว์ของและสิ่งที่ในตัวเขามีนั้นออกมาได้และเขาสามารถทำมันได้อย่างจริงจังและเต็มที่

และกลายเป้นนักเตะตัวหลักให้กับโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัคในตอนนั้นและสามารถพาทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีก้าถึง 3 สมัย ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาลได้อีก 1 สมัยยังไม่หมดยังมียูฟ่าคัพอีก2 สมัยด้วย และในปีนั้นเองถือว่าเป็นปีจุดสูงสุดของเขาด้วยการรับรางวัลอย่างบัลลงดอร์นั่นเอง

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  ae บาคาร่า