ไค ฮาเวิรตซ์ย้ายซบเชลซีพร้อมเซ็นสัญญาอยู่ด้วย 5 ปี 

          เชื่อว่าในวันนี้หลังจาก แฟนบอลของเชลซีให้ได้ยินข่าว เกี่ยวกับการซื้อตัวนักเตะเข้ามาร่วมทีม กับทางสโมสรเชลซีแล้วก็คงจะต้องดีใจกันอย่างแน่นอน  

เนื่องจากในวันนี้ซึ่งตรงกับวันที่ 5 เดือนกันยายนปีพศ2563 ทางด้านสโมสรฟุตบอลเชลซีได้ออกมาประกาศเกี่ยวกับเรื่องของการปิดดิลการซื้อนักเตะ ที่กำลังเป็นดาวรุ่งอยู่ในขณะนี้นั้นก็คือการที่ทางสโมสรเชลซีนั้นสามารถคว้าตัว ไค ฮาเวิรตซ์ ให้มาอยู่กับทางสโมสรเชลซีได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยในวันนี้ท่านเชลซีและ   ไค ฮาเวิรตซ์  ได้มีการตกลงทำสัญญากันเป็นที่เรียบร้อยโดยเอกสารสัญญานั้นมีการระบุไว้ชัดเจนว่า ไค ฮาเวิรตซ์ จะต้องอยู่กับสโมสรเชลซีเป็นระยะเวลา 5 ปีด้วยกัน  ซึ่งข้อตกลงสัญญานี้เป็นอันว่าได้รับการตอบรับเป็นที่เรียบร้อยแล้วอย่างเป็นทางการ

   อย่างไรก็ตามแต่ทางร้านสโมสรเชลซีนั้นไม่ได้ซื้อตัวเพียงแค่ ไค ฮาเวิรตซ์ให้มาร่วมทีมเพียงเท่านั้น  เพราะก่อนหน้านี้ทางสโมสรเชลซีก็ได้มีการซื้อตัวนักเตะหน้าใหม่มาอีกหลายคนซึ่งท่านนับรวม ไค ฮาเวิรตซ์ที่มีการเซ็นสัญญากันในวันนี้ก็เป็นทั้งหมด 7 คนแล้วด้วยกัน  โดยช่วงที่มีการซื้อตัวนักเตะนั้นเป็นแค่ช่วงเวลา Summer สั้นๆนี้เท่านั้นเองแต่ก็สามารถปิดบิลการค้าได้อย่างสวยงามและเชลซีก็มีนักเตะที่ตนเองต้องการอยากจะให้มาร่วมทีมได้มากถึง 7 คนแล้ว

  สำหรับการเซ็นสัญญาระหว่างเชลซีกับไค ฮาเวิรตซ์ นั้นถึงแม้จะมีการระบุแล้วว่ามีการทำเอกสารและมีลายเซ็นกันเป็นที่เรียบร้อยแต่ทางร้านสโมสรเชลซีและ ไค ฮาเวิรตซ์ ก็ไม่ยอมออกมาประกาศว่าสุดท้ายแล้วค่าตัวของ ไค ฮาเวิรตซ์ ได้เป็นจำนวนเงินไปเท่าไหร่  เราไม่ว่านักข่าวหรือใครถามทางด้านตัวแทนสโมสรเชลซีรวมถึงไค ฮาเวิรตซ์  ก็ไม่ยอมปิดปากบอกค่าตัวกันเลย 

       จากการที่นักข่าวสัมภาษณ์ ไค ฮาเวิรตซ์  เขาได้พูดถึงความรู้สึกหลังจากที่ได้มีการเซ็นสัญญากับทางเซลล์ C แล้วว่าเขารู้สึกมีความสุขและมันเหมือนกับเป็นความฝันที่ในที่สุดแล้วเขาก็ได้มาอยู่ในสโมสรที่โด่งดังอย่างเชลซีซึ่งแน่นอนว่าเขาวาดหวังเป็นอย่างมากว่าเขาจะทำความฝันที่เขาหวังไว้นั้นให้เป็นจริง

  โดยทางด้าน ไค ฮาเวิรตซ์ ยังบอกอีกด้วยว่าเขาคาดหวังว่าจะสามารถเข้ากับเพื่อนร่วมทีมได้แล้วก็อยากจะเจอเพื่อนร่วมทีมของเขาเร็วๆนี้ ไม่ใช่เพียงแค่เพื่อนร่วมทีมเท่านั้นที่เขาอยากเจอแต่เราทีมงานทั้งหลายพวกสต๊าฟโค้ชเขาก็อยากจะทำความรู้จักเพื่อที่จะได้สนิทสนมและอยู่ด้วยกันอย่างราบรื่น

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนันบอล ฝากขั้นต่ํา 100 โบนัส 100

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นายมันยอดคน

หากจะพูดถึงนักเตะสักคนที่เป็นต้นแบบของนักกีฬาฟุตบอล คงจะหนีไม่พ้นชายที่ชื่อว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ศูนย์หน้าดาวยิงชาวโปรตุเกส ที่ล่าสุดนั้นยิงประตูในนามทีมชาติทะลุไปเกินหนึ่งร้อยประตูแล้ว

 ซึ่งเป็นนักเตะในประวัติศาสตร์ของโปรตุเกส คนแรกที่ทำได้ถึงขนาดนี้ โดยก่อนหน้านี้นั้น หากจะพูดถึงนักเตะโปรตุกีส ที่โด่งดังนั้น ก็จะมีตำนานอย่าง ยูเซบิโอ ศูนย์หน้าดาวยิงในยุคก่อนที่เคยพาโปรตุเกสได้อันดับสามฟุตบอลโลกมาแล้ว หรือจะเป็นนักเตะที่ชื่อว่า หลุยส์ ฟิโก้ ที่เป็นตำนานของชาวโปรตุเกสอีกคน

 แต่สองคนนั้นได้ต่างกับโรนัลโด้ อย่างสิ้นเชิง เพราะเค้าทำในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการที่เป็นเดอะแบกพาทีมชาติโปรตุเกสคว้าแชมป์ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปมาเป็นเกียรติยศให้กับชาติตัวเองได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลโปรตุเกส หรือจะเป็นนักเตะชาวโปรตุกีส ที่คว้าบังลังค์ดอร์ได้ถึงห้าสมัย ร่วมไปถึงการคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกกับสองสโมสร

 นั่นก็คือ แมนยูไนเต็ด และ ราชันชุดขาว รีลมาดริด เผลออาจจะมีกับอีกสโมสรอย่าง ม้าลายยูเวนตุสก็ได้ แต่ที่น่าชื่นชมไปมากกว่านั้น โรนัลโด้ อาจจะไม่ใช่นักเตะที่เก่งมาจากพรสวรรค์ เหมือนกับ ลีโอเนล เมสซี่ แต่เค้านักเตะที่เป็นต้นแบบของนักกีฬาฟุตบอลหรือกีฬาทุกประเภท ที่สร้างวินัยให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการฝึกซ้อมที่หนักหน่วง 

รวมไปถึงการดูแลตัวเอง จากเด็กคนหนึ่งที่ย้ายมาจากสโมสรสปอตติ้งลิสบอน ในโปรตุเกส กับการเป็นตัวแทนของเดวิด เบ็คแฮม ตำนานเบอร์เจ็ดของผีแดง แมนยู ทำให้ความกดดันถาโถมเข้าสู่ตัวนักเตะคนนี้ และก็ตำหนิและดูถูกในช่วงแรก แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ได้เป็นผลทำให้เค้าแย่ลง

 แต่กลับเป็นแรงผลักดันให้เค้าหมั่นฝึกซ้อมและกลายเป็นนักเตะที่เก่งขึ้นในเวลาต่อมา จนได้รับการติดต่อขอซื้อไปอยู่ มาดริด ซึ่งที่แห่งนี้นั้นกลายเป็นสโมสรที่ทำให้นักเตะคนนี้ได้ฉายแวว และปล่อยฝีเท้าทุกสิ่งทุกอย่าง จนพาราชันชุดขาวประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามและกลายเป็นตำนานของสโมสร ซึ่งเป็นตำนานที่เหนือกว่า ราอูล กอนซาเลซ อดีตตำนานและสัญลักษณ์ของราชันชุดชาวเสียอีก 

และในนามทีมชาติ เค้าก็เหมือนทุกสิ่งอย่างและเป็นจุดศูนย์รวมของเพื่อนผอง ที่ทุกคนต่างยอมรับและให้ความนับถือกับนักเตะคนนี้ จนทุกวันนี้มันเปรียบเสมือนว่า โรนัลโด้ คือทีมชาติโปรตุเกส และทีมฟุตบอลชาติโปรตุเกส ก็คือชายที่มีชื่อว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้

 

สนับสนุนโดย  betbb

บทเรียนราคาแพงของ ยอโควิช

หากใครที่ได้ชมการแข่งขันการตีเทนนิส เมื่อวันที่ 6 เดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2563 ซึ่งตรงกับวันอาทิตย์ที่ผ่านมา คงจะ   ได้ทราบกันแล้วว่าในวันแข่งขันดังกล่าวรอบที่ มีนักเทนนิสชื่อก้องโลก อย่าง โนวัค ยอโควิช เข้าร่วมการแข่งขันในวันนั้นด้วย            เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อในขณะที่มีการแข่งขันตีเทนนิสกันอยู่ดีดี

แต่ด้วยการเล่นที่ไม่ได้อย่างใจ และอารมณ์หัวเสียนั้นมีมากจนเกินไป ทำให้ โนวัค ยอโควิช กระทำการไม่สมควรขึ้นนั่นก็คือ การที่เขาตั้งใจที่จะตีลูกเทนนิสให้ไปกระทบกับขอบสนามเพื่อเป็นการระบายอารมณ์ ที่เขากำลังอารมณ์เสียอยู่

แต่เกิดพลาดเมื่อแทนที่ลูกเทนนิสจะตกไปที่พื้นแล้วกระเด้งไปทางอื่น ลูกเทนนิสลูกนั้นดันกระดอนไปตัดเข้าที่ผู้กำกับ ที่ยืนกำกับเส้นที่ขอบสนาม ทำให้เธอได้รับบาดเจ็บ  ซึ่งผู้ที่กำกับเส้นที่ขอบสนามและเป็นคนที่โชคร้ายนั่นก็คือ  ลอร่า คล้าร์ก

ซึ่งหลังจากที่ทำลูกบอลกระเด้งไปโดน ลอร่า คล้าร์ก  แบบไม่ตั้งใจแล้ว โนวัค ยอโควิชก็รีบวิ่งไปขอโทษ ลอร่า คล้าร์ก   ทันทีกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้ให้บทเรียนกับ โนวัคยอโควิชอย่างมากเลยทีเดียว

เพราะว่าจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้เขานั้นไม่สามารถที่จะเข้าแข่งขันรายการนี้ต่อได้อีกนั่นเองและที่สำคัญเขาถูกปรับให้แพ้ดังนั้นตลอดการแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลมของรายการยูเอสโอเพ่นจะไม่มีนักเทนนิสที่ชื่อโนวัคยอโควิชอีกต่อไปและไม่เพียงเท่านั้น

บทเรียนที่เขาได้รับนั้นยังแลกมากับเงินรางวัลที่เขาควรจะได้อีกด้วยซึ่งในขณะนี้รอบการแข่งขันของเขานั้นหรือรอบ 16 คนสุดท้ายดังนั้นการที่เขาตีเทนนิสเข้ามาก่อนหน้านั้นเขามีเงินรางวัลจากการแข่งขันมาแล้วถึง 8 ล้านบาทด้วยกัน

และเพราะเหตุการณ์ที่เขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ในครั้งนี้นั่นเองทำให้เงินการแข่งขันที่เขามีการสะสมเอาไว้ถูกริบคืนไปทันทีแน่นอนว่าไม่ใช่เพียงแค่นี้เท่านั้น เขายังจะต้องถูกปรับเงินซึ่งเขาต้องเอาเงินส่วนตัวของตนเองออกไปอีกจ่ายอีก สามแสนกว่าบาท

ซึ่งเงินดังกล่าวนี้จะเป็นยอดเงินที่เขาต้องถูกเรียกเก็บเกี่ยวกับการประพฤติของเขาเองซึ่งถือว่าเป็นค่าปรับของการที่เขาแสดงนิสัยที่ไม่มีน้ำใจนักกีฬาออกมาให้เห็นและเหตุการณ์ในครั้งนี้มันเป็นประสบการณ์ที่เขาคงจะไม่มีวันลืม

และถึงแม้ว่าเขาเองก็ได้ออกมาขอโทษผู้กำกับเส้นหญิงที่ได้รับความบาดเจ็บเพราะเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งเขาเองก็ยอมรับว่าเขามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเขาหัวเราะจนเกินไปและเขาก็ได้รู้และนำเรื่องราวในครั้งนี้เป็นบทเรียนเพื่อที่จะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต

 

สนับสนุนโดย  ole777

นักเตะทีมเกษมบัณฑิตทำร้ายคู่แข่งจนต้องเข้าโรงพยาบาล

แค่เกมอุ่นเครื่อง นักเตะทีมเกษมบัณฑิตทำร้ายคู่แข่งจนต้องเข้าโรงพยาบาลเพราะหัวแตก

ในโลกออนไลน์กำลังมีการแชร์คลิป  การแข่งขันฟุตบอลซึ่งเป็นการแข่งขันระหว่างทีมสโมสรอยุธยา  บางปะอิน เอฟซี  โดยการแข่งขันครั้งนี้ได้เข้าไปทำการแข่งขันกับทีมสโมสรเกษมบัณฑิต

ซึ่งการแข่งขันนี้เป็นนัดอุ่นเครื่องเท่านั้น  โดยทั้งสองทีมนั้นอยู่ในการแข่งขันของทีมไทยลีก 3 เพราะอีกไม่กี่วันการแข่งขันฟุตบอลในประเทศไทย  ก็จะกลับมาเปิดให้มีการแข่งขันกันได้ตามปกติเหมือนเดิมแล้ว

ดังนั้นหลายสโมสรจึงได้มีการนัดการแข่งขันเพื่อทำการอุ่นเครื่องกันขึ้น  อย่างไรก็ตามในการแข่งขันในครั้งนั้นได้ทำให้มีนักกีฬาได้รับบาดเจ็บจนต้องเข้าโรงพยาบาล

ซึ่งนักกีฬาคนดังกล่าวนั้นชื่อว่านาย ชนายุทธ  ศรีสวัสดิ์  ซึ่งเขาเป็นนักกีฬาอยู่ทีมสโมสรฟุตบอลอยุธยา บางปะอิน เอฟซี  โดยในคลิปจะเห็นว่าผู้เล่น  ของทางทีมสโมสรฟุตบอลเกษมบัณฑิตที่ชื่อว่า นายอรรถพล  กันหนู 

 สำหรับข้อความที่ถูกนำมาแชร์กันนั้นผู้โพสต์ก็คือผู้บาดเจ็บที่ชื่อว่านาย ชนายุทธ  ศรีสวัสดิ์ โดยเขาออกมาพูดถึงเหตุการณ์ในวันดังกล่าวว่าทางด้าน นายอรรถพล  กันหนู  นั้นได้มีการพูดคุยกับเขาว่าตนเองนั้นเป็นนักเตะที่เตะมานานแล้วมีความเก๋า

และมีความเก่ง  ซึ่งเขาบอกว่าเขาเองก็ยอมรับ  เพราะเขาเองก็เป็นเพียงแค่เด็กรุ่นใหม่ที่พึ่งเข้ามาร่วมสนามในการแข่งขันแต่ตลอดระยะเวลาของการแข่งขันนั้น

เขามองเห็นว่า นายอรรถพล  กันหนู  นั้นเล่นนอกเกมอยู่ตลอดเวลาและทำให้คนอื่นได้รับบาดเจ็บและเสียตลอดเวลาซึ่งเขามองว่าถ้าเล่นเพราะต้องการเอาชนะเล่นเพราะใส่ใจในการแข่งขันเขาจะไม่รู้สึกอะไรเลย

แต่ก็มีความรู้สึกว่า นายอรรถพล กันหนู  นั้นเล่นรุนแรงมากเกินไป  โดยเขามองว่ามันไม่ได้เล่นไปตามเกมการแข่งขันเลย  เพราะนายอรรถพล  กันหนู   จ้องแต่จะทำร้ายคู่ต่อสู้

ซึ่งเขามองว่าเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำในเกมฟุตบอลการแข่งขันกันและเมื่อ นายอรรถพล  กันหนู  ทำคนอื่นได้รับบาดเจ็บก็ไม่เคยจะออกมาขอโทษหรือออกมายอมรับผิดที่ตัวเองทำไปเลย

ซึ่งหลังจากที่มีการแชร์เรื่องนี้ออกไปทำให้คนได้เห็นวิธีการเล่นของนายอรรถพล  กันหนู  และต่างก็ต่อว่าว่าเล่นแรงมากจนเกินไปแทนที่การเล่นในครั้งนี้ก็เป็นการอุ่นเครื่องเพียงเท่านั้นเป็นการเล่นแบบกระชับมิตรน่าจะเล่นด้วยกันด้วยดีและเล่นไปตามกฎกติกาไม่ควรเล่นแรงจนทำให้คู่ต่อสู้ได้รับบาดเจ็บ   

 อย่างก็ตามคงต้องรอดูกันต่อไปว่า ทางทีมเกษมบัณฑิต จะออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่าอย่างไรบ้าง

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  รวมเว็บหวยออนไลน์

หมดใจจริงๆ แล้ว

หลังจากข่าวกระแสการย้ายทีมของเมสซี่ ถูกประโคมข่าวจากสื่อต่างๆมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดคำถามในใจของแฟนบอลหลายๆคนว่ามันจะเป็นไปได้จริงๆเหรอที่นักเตะอย่างเมสซี่ ที่เติบโตมากับสโมสรบาร์เซโลน่าตั้งแต่อายุสิบสามปี จะเดินจากบาร์เซโลน่าไปอย่างนี้ และทุกคนก็ยังคงนึกภาพไม่ออกว่า เมสซี่ ได้ย้ายไปเล่นฟุตบอลให้กับทีมสโมสรอื่นบนโลกใบนี้

แต่จากล่าสุดกรณีที่เมสซี่ ไม่ได้ไปซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมบาร์เซโลน่า เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเปิดฤดูกาลใหม่นั้น มันจึงเป็นสัญญาณบ่งบอกค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า เมสซี่ ไปจากบาร์เซโลน่าค่อนข้างแน่ ซึ่งเรื่องนี้จากแหล่งข่าวคนใกล้ชิดของเมสซี่เองได้เปิดเผยว่า เมสซี่ ไม่นับตัวเองเป็นนักเตะภายใต้สีเสื้อของบาร์เซโลน่าเองอีกต่อไป ร่วมถึงไม่ใช่นักเตะของกุนซือคนใหม่อย่างโรนัล คูมัน ซึ่งเรื่องนี้ได้สร้างปัญหาให้กับบอร์ดบริหารเป็นอย่างมากสำหรับกรณีนี้

และได้มีการเรียกตัวแทนของเมสซี่ ซึ่งก็คือคุณพ่อของเค้าที่เป็นเอเย่นต์ส่วนตัวในการรับเรื่องต่างๆของเจ้าตัวเข้ามาพูดคุยและหาทางออกสำหรับการแก้ปัญหานี้ดีที่สุด โดยทั้งหมดนี้เองเริ่มต้นจากความหมดใจของตัวเมสซี่ และการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกจุดของบอร์ดบริหารมาตลอดทั้งฤดูกาลที่ผ่านมา

จนฟางเส้นสุดท้ายก็มาขาดจากคำพูดของกุนซือคนใหม่อย่างคูมันว่า ไม่มีอภิสิทธิ์ใดๆให้กับเมสซี่อีกต่อไป และไม่มีคำว่าตัวจริงสำหรับเค้าอีกแล้ว ด้วยคำพูดเช่นนี้ จากกองฟางที่ถูกไฟเผา มันเหมือนถูกราดน้ำมันถังใหญ่ให้ไฟลุกท่วมในคัมป์นู จากนักเตะที่เป็นสัญลักษณ์ของสโมสรและเหมือนทุกอย่างมาตลอดยี่สิบปี

ดูเหมือนว่าทุกอย่างได้จบลงแล้วระหว่างตัวเมสซี่ กับสโมสรบาร์เซโลน่า ซึ่งเรื่องดังกล่าวก็ยังคงลุกลามไปถึงแฟนบอลที่เรียกได้ว่า ร้อยละร้อยของแฟนบอลนั้น รักเมสซี่และเชิดชูแทบทุกคน ได้ออกมาเรียกร้องและประท้วงการกระทำของบอร์ดบริหาร รวมไปถึงกุนซือคนใหม่ ให้ออกมาขอโทษเมสซี่

และต้องทำทุกอย่างเพื่อรั้งเมสซี่ให้ได้ โดยเรื่องนี้เองก็ไม่รู้ว่าจะจบลงตรงไหน และแบบไหน แต่สิ่งเดียวที่รู้ได้ชัดว่า ไม่ว่าจะอย่างไรเชื่อเหลือเกินว่า แฟนบอลทั่วโลกจะไม่ได้เห็นเมสซี่ สวมใส่เสื้อของบาร์เซโลน่า อีกต่อไปอย่างแน่นอน เพราะเจ้าตัวคงไม่คิดจะกลับไปเล่นฟุตบอลให้สโมสรแห่งนี้อีกแล้ว ส่วนเรื่องจะย้ายทีมไปที่ไหนนั้น คงต้องเป็นเรื่องของอนาคตของเจ้าตัวที่ต้องติดตามดูกันต่อไป

กองกลางเยอะขนาดนี้ แล้วจะให้เล่นตรงไหน

 

ตอนนี้ต้องบอกได้คำเดียวว่า การเสริมทัพของทีมปีศาจแดงเรียกได้ว่าจี๊ดจ้าดมากขึ้นทุกวัน เพราะด้วยการซื้อนักเตะแต่ละคนของ โอเล่ กุนน่า โซลชา เรียกได้ว่าเข้าตาแฟนบอลเหลือเกิน เพราะทุกตัวที่นายใหญ่แห่งทัพปีศาจแดงนี้ซื้อมาแทบไม่ผิดหวังสักคน และเป็นการเสริมทัพที่ยอดเยี่ยมทุกประการ ไม่ว่าจะ อารอน วาริสก้า หรือบูรโน่ แฟรนันเดส

จนรายล่าสุดก็ได้กองกลางชั้นดีจากอาแจ๊กซ์มาอีกหนึ่งคนนั้นคือ ฟาน เดอ เบค ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการซื้อนักเตะที่ชาญฉลาดมาก เพราะนักเตะคนนี้เรียกได้ว่าครบเครื่องจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นด้วยบทบาทเพลย์เมกเกอร์ และทำได้ทั้งยิงและจ่าย แต่ปัญหาที่จะเกิดขึ้นในทัพผีแดงไม่รู้ว่าจะมีปัญหาตามมาหรือเปล่า เพราะด้วยขุมกำลังที่มีอยู่แล้วในตำแหน่งกองกลาง หรือจอมทัพนั้น ซึ่งมีทั้ง ป๊อกบา และบูรโน่ แฟรนันเดส แล้ว

รวมไปถึงกองกลางคนอื่นๆ ทั้ง เฟรด มาติช หรือ แมคโทมิเนียร์ ที่ตอนนี้นั้นตำแหน่งกองกลางแมนยู แทบจะเดินชนกันในห้องแต่งตัว แล้วคราวนี้นายใหญ่ของผีแดงจะจัดทัพกันอย่างไร เพราะในเวลานี้นั้นต้องบอกว่าตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์เองของแมนยูคือ บูรโน่ แฟร์นันเดส ที่ต้องบอกว่าตั้งแต่เค้าเข้ามาทำให้เกมการเล่นของผีแดงดีวันดีคืนอย่างเห็นได้ชัด

และยังทำได้อย่างยอดเยี่ยมกับการเล่นตำแหน่งมิดฟิลด์คู่กลาง ในสไตล์ บ๊อกซ์ ทู บ๊อกซ์ ประสานงานกันอย่างลงตัวกับ พอล ป๊อกบา อยู่แล้วมันจึงทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า แล้ว ฟาน เดอ เบค จะอยู่ตรงไหน แต่ก็ไม่แน่ว่า โซลชาอาจจะมีการปรับทัพจากที่ชอบเล่นสูตรสี่สามสาม กลายมาเป็นสี่สามสอง เล่นกองหน้าคู่

หรือจะเปลี่ยนไปเป็นสามสี่สาม โดยเล่นหลังสามคน ซึ่งทั้งสองวิธีนี้จะทำให้มีกองกลางสี่คนที่สามารถลงพร้อมกันได้ โดยอาจจะให้ บรูโน่ แฟร์นันเดส เล่นเป็นหลังกองหน้าทำเกมเป็นเพลย์เมกเกอร์ แล้วให้ฟาน เดอ เบค เล่นคู่กับ ป๊อก บา เป็นมิดฟิลด์คู่กลาง แบบบ๊อกซ์ ทู บ๊อกซ์

แล้วหากองกลางตัวรับสไตล์บีล้างผลาญ โดยอาจจะให้เฟร๊ด จอมขยันวิ่งไล่ตัดบอล หรือแมค โทมิเนียร์ ขาโหดตัดเกมรูกคู่แข่ง ก็น่าจะเป็นชุดกองกลางที่ดูจะลงตัวที่สุด ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงการได้ตัวนักเตะคนนี้มา ก็จะทำให้แมนยูไนเต็ด มีเกมบุกที่หลายหลาย และปรับแผนการเล่นได้อย่างมากมายเลย

วันเฮงหวังหายเจ็บโดยจากการที่เรานั้นใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า

     เป็นการที่วันเฮงนั้นมีอาการบาดเจ็บที่จมูกและ สายตานั่นเอง เพราะว่าอาจจะเกิดจากการความเครียดบิ๊กซ้ง  ทรงชัย  รัตนสุบรรณ  นั้นเกิดการที่จะเป็นห่วงวันเฮงเพราะว่าที่เกิดอาการบาดเจ็บนั่นเอง โดยมีการได้ปรึกษากับลูกชายและลูกสะใภ้โดยที่จะไปปรึกษาที่คลินิก ของลูกชายนั่นเอง โดยที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดนั่นเอง

โ ดยสะสมหลายอย่างนั่นเอง  ที่มีการประกาศการแขวนนวมผ่านทางเฟสบุ๊กนั่นเองซึ่งเรื่องบิ๊กซ้ง อดีตโปรโมเตอร์ทางต้นสังกัดสมัยที่วันเฮงชกมวย เพราะว่าเป็นการที่เป็นห่วงกับการการที่อยากให้วันเฮงเพราะว่าต้องการที่จะการรักษาศาสตร์ทุกทาง เพื่อที่จะต้องการที่จะให้เฮงมีอาการดีขึ้นเพื่อหวังว่าต้องการที่จะให้กลับมาชกมวยอีกครั้งนั่นเองเพราะว่าสามารถที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยของเรานั่นเองนะ  

     และเมื่อเวลาวันที่ 27เดือนมิถุนายนที่ผ่านมานั้นได้มีการพาวันเฮงนั้นไปเข้ารับการรักษานั่นเองที่เรานั้นได้แจ้งไปที่คลินิกเพื่อที่จะเข้าการรักษานั่นเองเพราะว่าการที่นั่นเป็นเครื่องมือที่เกี่ยวกับการใช้เครื่องกระตุ้นเซลล์ของร่างกายเพื่อที่จะทำงานนั้นได้ดีมากยิ่งขึ้นเพราะว่าเป็นการที่เรานั้นสามารถที่จะกระตุ้นโดยใช้ไฟฟ้า

เพราะว่ามาจากเทคโนโลยีจากเยอรมันซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการกระตุ้นให้เซลล์นั่นเอง เพราะว่าหลังจากที่เรานั้นรู้ว่าทางเจ้าตัวนั้นได้ออกมาบอกว่าเจ้าตัวนั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการที่เรานั้นได้รับบาดเจ็บนั่นเองเพราะว่าร่างกายนั้นเป็นเรื่องที่เรานั้นไม่สามารถที่จะรักษาโดยการที่บำบัดร่างกายของเรานั้นให้ดีมากขึ้นนั่นเอง  เพราะว่าเราต้องช่วยในเรื่องของการคลายเครียดด้วย  

     เรื่องนี้เป็นการที่เรานั้นเริ่มที่จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการที่เราต้องการเทคโนโลยีเป็นการที่เรานั้นใช้เกี่ยวกับการกระตุ้นด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้านั่นเองและเมื่อเซลล์ในร่างกายนั้นก็รักษาแผลได้เร็วขึ้น  เพราะว่าเรานั้นสามารถที่จะช่วยในเรื่องของการผ่อนคลายและก็ทำการรับบาดเจ็บเพื่อที่จะหายเร็วขึ้นอย่างแน่นอน

     ไม่ว่าอย่างไรนั้นเราก็ต้องการที่จะทำให้วันเฮงนั้นหายเพื่อที่จะเป็นอย่างปกติ  เพราะว่าเพื่อที่ว่าวันไหนนั้นจะได้วันเฮงนั้นเป็นการช่วยเพื่อว่าวันใดที่วันเฮงนั้นหายจะได้มีอาการที่ดีขึ้นนั่นเอง  เพราะว่าจะได้กลับมาต่อยมวยให้เรานั่นเองเพราะว่าการที่เรานั้นเฮงนั้นหายแต่ว่าเรานั้นอยากที่จะให้วันเฮงนั้นกลับมาเพื่อที่จะได้มีกีฬามวยเพื่อที่จะได้มาให้เรานั้นชื่นชมเพราะเรานั้นสามารถที่จะช่วยให้เขานั้นกลับมามีผลงานให้เราดูและติดตามนั่นเอง 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  alpha88 ดีไหม

นักเตะที่รวยระดับโลกมีใครบ้าง

นักฟุตบอลคืออาชีพในฝันของใครต่อใคร ซึ่งคุณรู้หรือป่าวว่านักฟุตบอลที่เป็นระดับโลกนั้นแต่ละคนพวกเขามีทรัพย์สินมหาศาลมากน้อยแค่ไหน ซึ่งในวันนี้เราจะมาพูดถึงนักเตะที่รวยที่สุดในโลก ซึ่งเราจะดูเฉพาะมูลค่าที่เป็นทรัพย์สินที่พวกเขามีในปัจจุบัน และเราจะนับเฉพาะบุคคลที่ยังไม่ได้แขวนสตั้ด

โดยเรานั้นได้การนำข้อมูลเหล่านี้มาจาก เซริบริตี้ เน็ต เวิร์ธ ซึ่งเป็นการประเมินทรัพย์สิน ของเหล่าบรรดาคนดังทั้งหลาย และมีสำนักงานตั้งอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย

ซามูเอล เอโต้ 95 ล้านดอลล์ ( 2,850 ล้าบาท )

เอโต้ ได้เคยเป็นอดีตเด็กปั้นของเรอัลมาดริด ก่อนที่เขาจะย้ายไปสร้างชื่อให้กับเรอัลมายอร์ก้า แต่ว่าสโมสรที่ทำให้เขากลายมา เป็นนักเตะระดับโลกอย่างแท้จริง ก็คือบาร์เซโลน่า โดยตลอดเส้นทางอาชีพของเขาเขาได้ผ่านการเล่นให้กับสโมสรดังๆในลีกชั้นนำมาแล้วมากมาย ทั้งอินเตอร์มิลาน เชลซี เอฟเวอร์ตัน และซามพ์โดเรีย เป็นต้น

สำหรับในตอนนี้เขาเป็นนักเตะฟรีเอเย่น หลังจากที่เขาอำลากาต้าร์เอฟซีมา แต่เจ้าตัวก็ยังคงประกาศความตั้งใจ อยากท้าแข่งต่อไป แม้ว่าเขาจะอายุ 38 ปีแล้วก็ตาม

เมซุต โอซิล 100 ล้านดอลล่าร์ ( 3,000 ล้านบาท )

เมซุต โอซิล เป็นผลิตผลจากทีมเยาวชนของ ชาลเก้ 04 ก่อนที่เขาจะย้ายไปบ่มเพราะฝีเท้ากับ เวเดอร์ เบรเมน จนได้ไปเข้าตาสโมสรใหญ่อย่างเรอัลมาดริดในยุคของโชเซ่ มูรินโญ่ เขาเคยได้รับการยกย่องว่าเป็นตัวปั้นเกมที่ดีที่สุดของโลก และทำให้อาร์แซน แวงแกร์ อดีตกุลซือระดับตำนานของอาร์เซน่อลยอม ทุ่มเงิน 42.5 ล้านปอน ซึ่งเป็นสถิติของสโมสร ณะเวลานั้น ดึงตัวเขามาร่วมทีม เมื่อปี 2013 เขาเป็นกำลังสำคัญของอาร์เซน่อลมาหลายปี

และแม้ว่าในช่วงหลังจะเจอกับเสียงที่มีการวิพากษ์วิจารณ์อยู่บ่อยครั้ง แต่หากว่าวันใดเล่นได้เข้าฝัก โอซิลก็ยังแสดงให้เห็นถึงความมีคลาสของนักเตะระดับโลกได้อย่างแท้จริง

เอแด็น อาซาร์ 100 ล้านดอลล่าร์ ( 3,000 ล้านบาท )

อาซาร์เป็นอดีตเด็กปั้น จากอาคาเดมี่ของริว และผลงานที่ยอดเยี่ยมของเขา ก็ทำให้เจ้าตัว กวาดรางวัลส่วนตัวมากมายจากประเทศฝรั่งเศษ จนถูกเชลซีดึงตัวมาร่วมทีม และที่นี่เองที่เป็นการช่วยพัฒนาฝีเท้าของเขา ไปอีกระดับจนกลายมาเป็นนักเตะระดับโลกอย่างแท้จริง เฉกเช่นในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตามในช่วงซัมเมอร์นี้ อาซาร์ ได้ทำตามความฝันของเขาในการย้ายไปอยู่กับเรอัลมาดริด ด้วยเสนอราคาเบื้องต้น 88 ล้านปอน ซึ่งอาจเพิ่มขึ้นเป็น 130 ล้านปอนตามเงื่อนไขเพิ่มเติม และโบนัทต่างๆ

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  betbbthai

นักเตะที่กำลังจะหมดสัญญาในปี 2021

ช่วงนี้การแข่งขันฟุตบอลทั่วโลก ยังไม่สามารถทำการแข่งขันกันได้ด้วยภาวะผลกระทบจากการระบาดของไข้ไวรัสโควิด ซึ่งกินเวลามาเกือบสี่เดือนแล้ว ถึงแม้ว่าการแข่งขันจะหยุดชะงัก แต่เวลาและสัญญาที่ผูกพันกันกับสโมสรยังคงไม่หยุดเดิน นักเตะหลายๆคน กำลังจะหมดสัญญาลงในไม่ช้านี้ ซึ่งก็มีนักเตะดังๆหลายๆคนที่ยังคงรอดูท่าทีของสโมสรกันอยู่ ซึ่งมีใครบ้างนั้นเรามาลองดูกัน

จิอันลุยจิ ดอมมารูม่า ผู้รักษาประตูจากทีมปีศาจแดงดำ เอซีมิลาน ยักษ์ใหญ่ในอิตาลี ที่กำลังรอดูท่าทีกับสโมสรยักษ์ใหญ่กับยูเวนตุส กับปารีส แซงค์ แชงแมงค์

ดาวิด อาลาบ่า นักเตะของทีมเสือใต้ ที่ดังมาตั้งแต่ดาวรุ่ง จนปัจจุบันกลายเป็นตัวหลักมาจนอายุตอนนี้ยี่สิบเจ็ดปีแล้ว และคว้าแชมป์มามากมาย และมีทีมอย่างบาร์เซโลน่า กับทีมมาดริด สนใจเค้าอยู่

เซอร์คิโอ รามอส กองหลังระดับตำนานกับมาดริด ที่ยังไม่สามารถตกลงต่อสัญญาแขวนสตั๊ดกับสโมสรได้ลงตัว และหากดีลนี้ไม่ลงตัว คาดว่ามีโอกาสไปหาความท้าทายใหม่ๆที่ต่างแดนแน่นอน

พอล ป๊อกบา นักเตะที่กำลังจะกลายเป็นนักฟุตบอลที่ใกล้จะหมดสัญญาที่มีสโมสรในโลกต้องการไปร่วมทีมมากที่สุด แต่ดูแนวโน้มแล้วว่า นักเตะอย่างป๊อกบา จะย้ายทั้งที ต้องเป็นระดับบิ๊กเนมของประเทศ และตัวเต็งที่จะได้เค้าไปนั้นน่าจะเป็นราชันชุดขาวอย่างมาดริด

ฮาเมส โรดิงเกซ นักเตะผู้อาภัพ ที่เคยมีชีวิตเหมือนฝันตอนฟุตบอลโลกปี 2014 ซึ่งในเวลานั้นเค้าได้ตบเท้าเข้าสู่ทีมราชันชุดขาวด้วยค่าตัวสุดแพง แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถทำได้ดีเหมือนตอนเล่นฟุตบอลโลกจนต้องพเนจรกลายเป็นนักเตะยืมตัวไปที่เสือใต้ได้สองปี สุดท้ายกลับมาตายรังที่มาดริด และก็ยังคงเป็นตัวสำรองอยู่ทุกวันนี้ แต่เชื่อเหลือเกินว่าถ้าตัวเค้าพร้อมที่จะหาความท้าทายใหม่ๆในต่างแดน ยังคงมีสโมสรอีกมากมายที่อ้าแขนรอรับเค้าอยู่อย่างแน่นอน

ลีรอย ซาเน่ นักเตะตัวสำคัญของเรือใบสีฟ้า ที่มีส่วนสำคัญในการคว้าแชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ก่อนที่จะได้รับบาดเจ็บในฤดูกาลนี้จนทำให้ไม่ได้ลงเล่นเลย และสัญญาของเค้าเองนั้นก็กำลังจะหมดลงอีกทั้งมีข่าวมาตลอดว่าเค้าอยากกลับไปที่เยอรมัน ซึ่งมีแนวโน้มเหลือเกินว่าเค้าจะไปลงเอยกับ เสือใต้

ลีโอเนล เมสซี่ นักเตะที่กำลังจะหมดสัญญา แต่เชื่อเหลือเกินว่า บาร์ซ่า คงไม่ปล่อยอย่างแน่นอน แล้วมีข่าวถึงขนาดให้สัญญาการค้าแข้งตลอดชีพ

 

สนับสนุนโดย  next88 line

วิกฤติเศรษฐกิจเกี่ยวกับฟุตบอล

ภายหลังที่มีการแพร่ระบาดไข้โควิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ทำให้หลายๆอย่างจะต้องเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก ทั้งยังในด้านการดำเนินชีวิตชีวิตความเป็นอยู่รวมทั้งวิธีการทำธุรกิจ มีหลายๆธุรกิจการค้าจะต้องกระทำการปิดตัวแล้วก็เลิกว่าจ้างพนักงานกันไป

ด้วยเหตุผลที่ไม่มีรายได้มาจุนเจือบริษัท ซึ่งจุดนี้นั้นก็มิได้เป็นเพียงแค่วิธีการทำธุรกิจค้าขายผลิตภัณฑ์ทั่วๆไป แต่ว่าธุรกิจการทำสโมสรฟุตบอลก็โดนผลพวงไปด้วยเหมือนกันจากที่พวกเรามองเห็นข่าวสารกันว่า ทางสโมสรฟุตบอลหลายๆชมรมเริ่มมีการยุบสโมสรกันไป

เนื่องจากว่าการแข่งขันฟุตบอลไม่สามารถที่จะแข่งขันกันต่อได้ ถึงในตอนนี้กำลังจะมีทยอยกันให้เริ่มเตะแล้วก็ตามที แต่ว่าในความจริงรายได้ของสโมสรนั้นก็ยังมิได้เข้ามาเต็มเม็ดเต็มหน่วย เนื่องจากว่าการเปิดให้ผู้ชมเข้าชมการแข่งขันและก็เก็บค่าตั๋วเข้าชมการแข่งขันนั้น

ในตอนนี้ก็ยังไม่สามารถที่จะทำได้ ก็เลยทำให้สโมสรขาดรายได้ตรงส่วนนี้ไปออกจะเยอะ ส่วนรายการจ่ายนั้นยังคงมีเหมือนเดิม ถึงบางสโมสรจะมีการพูดจากับนักฟุตบอลเพื่อขอลดเงินค่าจ้างต่ออาทิตย์ในขณะนี้นั้น แต่ว่าก็มิได้ว่าจะทำเป็นทุกสโมสร ส่วนนอกเหนือจากนี้แล้วนั้น อีกรายได้หนึ่งของสโมสรนั้น

ส่วนหนึ่งก็มาจากผลงานของตัวสโมสรเองด้วยซึ่งสามารถผ่านเข้ารอบฟุตบอลลึกไปเล่นต่อได้ไหม อย่างกรณีของผีแดงแมนยูที่พวกเรารู้จักกันดีนั้น ข่าวสารที่ออกมาก็มีหนี้สินพุ่งกระฉูดเนื่องจากว่ารายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายจากเหตุผลที่ไม่ได้เล่นฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีก

กระทั่งทำให้ค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดทางโทรทัศน์ก็ลดลงไป ยิ่งพอมาพบเหตุการณ์การแพร่ระบาดของไข้โควิด19 นี้แล้วด้วยนั้น ทำให้สถานะทางด้านการเงินยิ่งตกต่ำหนักเข้าไปอีก ซึ่งอย่างไรก็แล้วแต่ ทาง เอ็ด วูดเวิร์ด รองประธานสโมสรของทีมผีแดงนั้น

ก็ได้ออกมาพูดว่า ไม่ว่าเหตุการณ์จะเป็นยังไง ทางผีแดง สโมสรแมนยูไนเต็ดก็จะต่อสู้วิกฤตินี้ผ่านไปให้ได้ รวมทั้งมั่นใจว่าภายหลังการแพร่ระบาดของไข้โควิด19 นั้นได้จบลง และก็การแข่งขันสามารถกลับมาแข่งได้เหมือนเคยแล้วนั้น

ทางชมรมเองจะมีสถานะการเงินที่ดียิ่งขึ้น รวมทั้งเมื่อใดก็ตามที่ผลงานในสนามของแมนยูกลับมาอยู่ในฟอร์มราวในขณะที่ ป๋า เฟอร์กี้ คุมแล้วนั้น แล้วก็สามารถผ่านเข้าไปเล่นศึกยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกส์ได้ในช่วงฤดูกาลหน้า ทางสมาคมเองก็จะมีรายได้จากส่วนที่ตรงนี้มากขึ้นเรื่อยๆ

รวมทั้งต่อไปหนี้สินที่สมาคมมีมากอยู่ในขณะนี้ก็จะเปลี่ยนกลับมาเป็นผลกำไรท้ายที่สุด แต่ว่าทั้งนี้อาจจำต้องฝาก โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ปลุกฟอร์มผี พาติดท๊อปโฟร์ให้ได้เสียก่อน

 

สนับสนุนโดย  สูตร บาคาร่า next88