เกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ลิโอเนล เมสซี่ อาจมีค่ำคืนที่ไม่น่าจดจำในนัดที่ บาร์เซโลน่า เสมอกับ นาโปลี 1-1 แต่ทว่า 24 ชั่วโมงต่อมา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็มีค่ำคืนที่น่าผิดหวังไม่ต่างกัน เนื่องจาก ยูเวนตุส ออกไปพ่ายให้กับ โอลิมปิก ลียง 1-0 

ในความเป็นจริงมันอาจจะแย่กว่าเดิมเพราะว่า ยูเวนตุส อาจจะตกรอบจากการแข่งขันได้เช่นกัน ทีมของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ หาโอกาสยิงตรงกรอบไม่ได้เลยสักครั้ง ในขณะที่ โรนัลโด้ ก็ไม่สามารถเพิ่มสถิติอันน่าทึ่งของเขาในรอบน็อคเอาท์ศึกแชมเปี้ยนส์ลีกด้วยเช่นกัน

ตำนานของหัวหอกชาวโปรตุกีสยิงได้ถึง 65 ประตูจากการลงเล่นในรอบน็อคเอาต์ 79 แมตช์ นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ได้พยายาม แต่ในความเป็นจริงแล้วเขาพยายามหนักมาก ๆ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรกโรนัลโด้ได้โอกาสยิงฟรีคิกจากระยะ 30 หลา แต่มันเป็นการยิงที่ย่ำแย่เมื่อเขาดันเตะไปชนกำแพงเข้าอย่างจัง

นั่นคือฟรีคิกครั้งที่ 38 ของโรนัลโด้แล้วที่ไม่สามารถเปลี่ยนให้มันเป็นประตูแก่ยูเวนตุส จากความพยายามทั้ง 38 ครั้งของเขา เป็นการยิงชนกำแพง 24 ครั้ง ถูกเซฟอีก 11 ครั้ง ยิงหลุดกรอบ 2 ครั้ง และอีก 1 ครั้งเป็นการยิงชนคาน แต่ทั้งหมดแล้วไม่สามารถซุกก้นตาข่ายได้เลยสักครั้ง

นั่นหมายความมันเป็นเวลามากกว่า 2 ปีแล้วที่เขายิงประตูจากฟรีคิกไม่ได้ ในความเป็นจริงเขายิงฟรีคิกเข้าตาข่ายไม่ได้มานับตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2017 แล้วในช่วงเวลาที่เขาค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด บางทีมันถึงเวลาที่เขาต้องเลี่ยงให้กับ มิราเลม เปียนิช แล้ว

ถ้าตัดเรื่องการยิงฟรีคิกแล้ว โรนัลโด้ มีผลงานที่ยอดเยี่ยมกับยูเวนตุสในฤดูกาลนี้ เขาทำได้ 21 ประตูจากการลงสนาม 21 นัดในศึกกัลโช่ เซเรีย อา ซึ่งรวมถึง 16 ประตูจาก 11 นัดหลังสุด

การล้มเหลวในการทำประตูอเวย์โกล์อาจเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังของยูเวนตุส แต่คุณคงอาจจะได้เห็นผลงานระดับมาสเตอร์คลาสในเลกสองของโรนัลโด้แล้วช่วยพาทัพม้าลายเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศก็เป็นไปได้